สูตรเล่นไพ่ แบล็คแจ็ค ด้วยวิธีการนับไพ่ด้วย

ไพ่ แบล็คแจ็ค เป็นไพ่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในโลกของเกมการพนัน ด้วยรูปแบบการเล่นและกติกาที่ไม่ซับซ้อนจึงทำให้เกิดความสนุก โดยเฉพาะการเล่นร่วมกับเพื่อน ๆ หลาย ๆ คน ไพ่แบล็คแจ็คเป็นการใช้ความจำและมันสมอง เป็นไพ่ที่ไม่ใช้ดวงในการเล่นแต่เป็นฝีมือรวมไปถึงการวิเคราะห์การจดจำไพ่ไม่ว่าจะเป็นศิลปะในการคำนวณรวมถึงประสบการณ์ต่าง ๆ

ด้วยไพ่ แบล็คแจ็ค เป็นเกมไพ่ที่สนุกสนานเร้าใจจึงทำให้คนดังจากทั่วทุกวงการให้ความสำคัญและเข้ามาเล่นกับการ เล่นไพ่ blackjack นี้ ดังจะเห็นได้จากภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องที่มักจะนำเกมไพ่ blackjack เข้าสู่ฉากเพื่อเล่นคลายเครียดหรือฉากที่กำลังเรียกไพ่หรือหมอบเป็นต้น

แบล็คแจ็ค

การเล่นไพ่ blackjack บอกได้เลยว่าไม่มีสูตรและสำเร็จใด ๆ การนับถือเป็นเทคนิคชั้นยอดของการเล่นไพ่ blackjack อยู่แล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้เล่น ที่ผ่านการฝึกฝนมามากแค่ไหน

กฏการเล่น และ วิธีเล่นแบล็คแจ็ค

สำหรับ วิธีเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ ซึ่งเป็นเกมพนันที่น่าสนใจ สามารถเลือกลงทุนได้ง่าย โดยการนับแต้มไพ่ไม่ยาก แบล็คแจ็ค จากการนับไพ่สองใบแรกและเรียกไพ่เพิ่มได้แต่การเรียกไพ่จะต้องไม่เกิน 21 แต้ม จั่วกี่ใบก็ได้ หากจั่วไพ่แล้วแต้มเกิน 21 แต้ม จะถือว่าระเบิดหรือแพ้นั่นเอง ในการเล่นแต่ละครั้งจะเริ่มต้นด้วยไพ่ 52 ใบในการเล่นครั้งนี้ โดยมีวิธีการเล่นที่ไม่ยุ่งยากเลย

  • เริ่มต้นการเล่น เกมไพ่แบล็คแจ็ค ให้ทำการหาห้องเกมเดิมพัน โดยการเลือกโต๊ะเล่นตามชอบได้เลย
  • หลังจากที่เราได้ห้องที่จะเล่นแล้ว ให้นักเดิมพันวางชิพเดิมพันในเวลาที่กำหนด
  • ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้กับนักเดิมพันทุกท่านที่อยู่ในห้องรอบละ 1 ใบ แล้วค่อยแจกให้ตัวเอง จากนั้นก็เริ่มแจกอีก 1 ใบ ให้จนครบได้คนละ 2 ใบเรียบร้อน แต่ดีลเลอร์จะมีแค่ 1 ใบ ที่หงายอยู่ และอีก 1 ใบที่คว่ำไว้ แต่สำหรับของผู้เล่นจะคว้าไว้ทั้งสองใบ
  • จากนั้นให้นักเดิมพันเปิดไพ่เพื่อลุ้นว่าแต้มของท่านได้ใกล้เคียงไพ่ 21 แต้ม หรือไม่ ถ้าหากยังไม่ใกล้เคียงสามารถเรียกเพิ่มได้จากดีลเลอร์ไม่มีจำกัดจำนวน แต่ถ้าว่าเรียกไพ่แล้วแต้มเกิน 21 แต้ม จะทำให้นักเดิมพันแพ้ในรอบนั้นไป ซึ่งการเรียกไพ่จะต้องเรียงตามลำดับการแจกไพ่ วนไปถึงคนสุดท้าย
  • สำหรับกฏเหล็กที่สำคัญของ แบล็คแจ็ค นั้นคือ หากแต้มไพ่บนมือของดีลเลอร์มี 17 แต้มขึ้นไป และถ้าแต้มไพ่ของนักเดิมพันมีอยู่ 16 แต้มลงไปของรอบนั้นละก็จะถือว่าดีลเลอร์เป็นฝ่ายชนะไป ไม่สามารถจั่วได้
  • ถ้าแต้มของนักเดิมพันมีอยู่ 16 แต้มก็สามารถหยุดไม่ต้องจั่วก็ได้ เพราะหากจั่วอาจจะเสี่ยงแต้มเกินได้ ให้รอลุ้นแต้มของดีลเลอร์ให้เกิด 21 แต้มเอาดีกว่า ถ้าหากเกินเราก็จะชนะไปในเกม แบล็คแจ็ค นั่นเอง

ก่อนที่จะเข้า สูตรเล่นไพ่แบล็คแจ็ค ผู้เล่นจะต้องรู้ให้ได้เสียก่อนว่าเกมไพ่ที่จะเล่นนั้นใช้ไพ่ทั้งหมดกี่สำรับเพราะนั่นหมายถึงจะได้คำนวณได้ถูกว่าไพ่ที่ออกมาครบตามจำนวนที่อยู่ในสำหรับแล้วหรือยัง เนื่องจากไพ่ทุกใบที่หงายยอมแพ้หรือหมอบทางเจ้ามือจะไม่ดึงไพ่กลับเข้าไปในกองหากแต่รอการสับไพ่ใหม่ในรอบถัดไป

การนับไพ่ผู้เล่นจะได้เปรียบเจ้ามือโดยเฉพาะผู้เล่นในลำดับท้าย ๆ จะมีเวลาในการจดจำไพ่และนับไพ่ที่ออกมาหงายเพื่อที่จะคำนวณดูได้ว่าไพ่ที่อยู่ในกองหรือที่คว่ำไว้นั้นเหลือไพ่อะไรบ้าง ซึ่งความน่าจะเป็นที่ได้นั้นคือไพ่อะไร หากใครไม่มีพิรุธในเรื่องของการนับไพ่แล้วก็ยากที่ทางบ่อนจะทำการตรวจจับได้ เพราะผู้เล่นไม่มีกระดาษ ปากกาหรือดินสอเพื่อใช้ในการบันทึกหากแต่ต้องอาศัยความจำของสมองที่ดีมาก ๆ เพื่อที่ทำการจดจำและนับไพ่ได้ สำหรับ สูตรเล่นไพ่แบล็คแจ็ค จะมีวิธีการเล่นยังไงไปดูกันเลย

  • อันดับแรกต้องกล่าวถึงการตัดสินใจต่าง ๆ ก่อนว่าผู้เล่นจะเรียกไพ่, ยอมหรือจะหมอบ ทั้งนี้ต้องมาดูว่าไพ่ที่อยู่ในมือของผู้เล่นแต่ละคนนั้นมีแต้มอย่างไร
  • ผู้เล่นจะไม่เรียกไพ่หรือหยุดเรียกไพ่เพิ่มเมื่อมีแต้มเท่ากับ 17-18-19 และ 20 เพราะถือว่ามีความเสี่ยงที่จะดึงเข้าไพ่และแต้มเกิน 21

เทคนิค สูตรเล่นไพ่แบล็คแจ็ค นับไพ่อย่างไรให้ชนะ

จริง ๆ สูตรการนับไพ่ไม่ใช่การโกงแต่เป็นเทคนิคที่อาศัยความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นแต่ละคน เนื่องจากจะเป็นการคิดคำนวณและจดจำไพ่ที่แจกออกมา ซึ่งมีเทคนิควิธีการคิด และคำนวณดังต่อไปนี้

  • เลข 2-3-4-5 และ 6 ให้นับ + 1
  • เลข 7-8 และ 9 ไม่ต้องนับ หรือเป็นศูนย์
  • เลข 10-J-Q-K และ A ให้นับ -1

ส่วนวิธีการนับไพ่ด้วยเทคนิคนี้ก็จะเริ่มนับตั้งแต่ผู้เล่นคนแรก ๆ ที่ได้ไพ่โดยถ้าได้ไพ่เลข 2 ต่อมาให้เป็นเลข 10 ก็คือให้ลบกันเช่น +1 กับ 1 ก็เหลือ 0 ซึ่งให้ทำการคำนวณและบวกอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนถึงแต้ม 16 นั่นถือเป็นจังหวะของคุณเพราะถือว่าไพ่ ที่มีแต้มเล็กนั้นออกไปหมดแล้วเหลือแต่ไพ่ที่ใหญ่กว่า ดังนั้นการลุ้นเปิดไพ่ต่อจากนี้มีโอกาสที่คุณจะชนะหรือทำให้ เจ้ามือไพ่ได้เกิน 21 แต้มจนส่งผลทำให้เจ้ามือเสียเงินรอบวงนั่นเอง

สูตรเล่นไพ่แบล็คแจ็ค และการคำนวณแต้มผู้เล่นกับเจ้ามือ

  • หากผู้เล่นได้แต้ม 16 แต้มแล้วไพ่เจ้ามือใบแรกหงายโชว์เป็นไพ่ 2-3-4-5 และ 6 ผู้เล่นควรหยุดเรียกไพ่ ทำไมไพ่หน้า 2-3-4-5 และ 6 จึงควรหยุดเรียก เพราะถ้าใบที่คว่ำอยู่มีแต้ม 10 เท่ากับว่าเจ้ามือมี 16 แต้มและจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องหยุดเพราะเจ้ามือไม่สามารถที่จะหยุดที่ 16 แต้มได้ โอกาสที่จะจั่วเข้าไปสูงเพื่อแต้มเกิน 21 เป็นไปได้ที่สูงมาก
  • แต่ถ้าหน้าไพ่ของเจ้ามือเป็น 7 และ 8 ผู้เล่นควรเลือกไพ่ 1 ใบ
  • หน้าไพ่เจ้ามือเป็น 9-10-J-Q-K- A ให้ทำการหมอบและยอมที่จะเสียเงินเดิมพันเพียงครึ่งเดียว เพราะคุณไม่รู้หรอกว่าไพ่ที่คว่ำนั้นคือ 9-10-J-Q-K- A หรือไม่ เพราะถ้าใช่คุณสู้ต่อก็จะเสียเงินเต็มจำนวน

นี่เป็นกลยุทธ์ของการเรียกไพ่ แบล็คแจ็ค และอ่านไพ่ที่เป็นมาตรฐาน สำหรับคนที่ไม่ชอบเสี่ยง ในขณะที่หากคุณเป็นคนชอบเสี่ยงก็สามารถที่จะสู้กับไพ่ของเจ้าได้ โดยที่ไม่หมอบ อาจจะลุ้นให้การดึงไพ่ใกล้เคียงกับ 20 แล้วให้เจ้าเปิดเองดีกว่า เพราะเมื่อแต้มตัวเองอยู่ในระดับไหนนั้นและต้องการที่จะวิเคราะห์ไพ่เจ้ามือ เพราะถ้าคุณเล่นและวิเคราะห์ไปอย่างนี้รับรองได้ว่าโอกาสที่เจ้ามือจะกินเงินเดิมพันของคุณนั้นเป็นไปได้ยากอย่างแน่นอน

แบล็คแจ็คฉบับเซียน

  • ขอจั่วไพ่เมื่อจำเป็น โดยการเดิมพันไพ่แบล็คแจ็ค นักเดิมพันจะต้องเรียกไพ่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งช่วงไหนควรเรียก คือ หากได้ไพ่สองใบแล้วแต้มรวมกันได้น้องกว่า 9 แต้ม
  • เพิ่มเงินเดิมพันในโอกาสที่ดี หากเมื่อเปิดไพ่สองใบได้ 9 แต้ม ซึ่งเป็นโอกาสที่ต้องได้แต้มดับเบิ้ล โดยการเพิ่มเงินวางเดิมพันเป็น 2 เท่า แต่ถ้าดีลเลอร์มีไพ่บนมือเพียง 3 ถึง 6 แต้มแนะนำให้จั่วไพ่เพิ่มได้เลย
  • ดับเบิ้ล Double หากได้แต้ม 10 กับ 11 นักเดิมพันควรดับเบิ้ล โดยดีลเลอร์มีแต้มเพียง 2 ถึง 10 แต้มให้นักเดิมพันเรียกไพ่เพิ่ม
  • เดินเกมให้เป็น หากดีลเลอร์ได้แต้มอื่น หากนักเดิมพันได้ผ่านมาถึงข้อนี้แน่นอนว่านักเดิมพันคงผ่านการเดิมพันมาไม่น้อย แปลว่าท่านได้รู้จักรูปแบบไพ่ได้ละเอียดมากพอ เช่น หากท่านได้ไพ่บนมือมี 12 แต้ม หรือมากกว่า 13 ถึง 16 แต้ม แล้วดีลเลอร์มีแต้มเพียง 3 ถึง 6 แต้ม ควรทำการเรียกไพ่เพิ่ม หากไพ่สองใบแรกมีแต้ม 17 ถึง 21 ไม่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม เพราะถือว่าเป็นแต้มไพ่ที่ดีที่สุด เพราะอาจจะทำให้เสี่ยงแต้มเกิน 21 แต้มอาจจะทำให้ไม่มีแต้มเลยก็ได้
  • วางแผนจัดการเงินลงทุน หากนักเดิมพันอยากจะเดิมพันแบล็คแจ็คให้ได้ผลกำไรที่ดี ควรจะมีการวางแผนจัดการเงินลงทุนก่อนเดิมพัน จะได้ไม่เดือดร้อนหรือเกิดข้อผิดพลาดภายหลังได้ จะได้จัดการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่ไม่ขาดคิดได้ สำรองเงินทุนได้
  • ไม่ควรแยกไพ่มากเกินไป หากอยากจะเป็นเซียนนักเดิมพันจะต้องศึกษาให้ดี และ ไม่ควรแยกไพ่มากเกินไป โดยเฉพาะการแยกคู่ 6 และคู่ 10 ไพ่แต้มพวกนี้ไม่ควรแยกเลย เพราะอาจจะทำให้ท่านเสียเปรียบหรือเดิมพันแพ้ได้ ยิ่งแยกไพ่มากขึ้นยิ่งมีความเสี่ยงที่จะได้ไพ่แต้มมากกว่า 21 แต้ม